สรุปจากหนังสือ 3 เล่ม

             เห็ด เป็นราชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่จัดเป็นพีชหรือสัตว์ เพราะไม่มีสารสีเขียว (Chlorophyll) เหมือนพืช จึงไม่สามารถปรุงอาหารเองได้ ไม่มีระบบประสาทหรืออวัยวะ และไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เหมือนสัตว์ การเจริยเติบโตของเห็ดมีลักษณะเป็นเส้นใย ซึ่งมีสีแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่เส้นใยจะมีสีขาว เมื่อถึงระยะสืบพันธุ์ เส้นใยจะรวมตัวกันเป็นกลุ่ใก้อน มีรูปร่างให้เห็นแตกต่างกันที่เราเรียกกันว่า ดอกเห็ด มีขนาดสี และกลิ่นไม่เหมือนกัน บางชนิดมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน บางชนิดมีกลิ่นเหม็นเวียนศรีษะ เห็ดส่วนใหญ่จะรับประทานได้แต่มีเห็ดจำนวนไม่น้อยมีพิษจนถึงขั้นตายได้


           
                เห็ดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เห็ดกินได้ (Edible Mushroom) แลพเห็ดมีพิษ (Poisonous Mushroom หรือ Toadstoo)  เห็ดที่กินได้มีหลายชนิด เช่น เห็ดหอม เห็ดฟาง มีรสและกลิ่นหอม บางชนิดมีกลิ่นเหม็น เช่น เห็ดร่างแห บางชนิดมีรสขม เช่น เห็ดเสม็ด บางชนิดมีรสเผ็ดชา เช่น เห็ดขิง เห็ดข่า เห็ดที่มีพิาหลายชนิด ชนิดมีพิษร้ายแรงถึงตาย เช่น เห็ดระโงกหิน บางชนิดมีพิษทำให้เกิดอาการมึนเมาและอาเจียน เช่น เห็ดหัวกรวดครีบเขียวอ่อน บางชนิดถ้ากินเพียงเล็กน้อยทำให้เกิดภาพหลอนคล้ายเสพยาเสพติด เห้ดชนิดนี้เรียก เห็ดโอสถลวงจิต (Hallucinogenic Musroom) เช่น เห็ดขี้ควาย เห็ดที่กินได้ส่วนใหญ่มีเนื้ออ่อนนุ่มหรือกรอบกรุบน่ากิน จัดเป็นอาหารที่มีคุณค่าเท่าเทียมผัก ดอกเด็ดมีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 90 นอกนั้นเป็รโปรตีน ไขมัน เกลือแร่ และวิตามิน ซึ่งมีวิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 มากกว่าชนิดอื่นๆ ยกเว้นเห็ดที่มีสีเหลืองวึ่งมีวิตามินเอมาก เห็ดจัดว่าเป็นอาหารที่ยุ่งยาก ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารไม่ควรกินมาก เห้ดหลายชนิดได้รับการส่งเสริมให้เพาะเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน เช่น เห็ดฟาง
             
              
                เห็ดฟาง เป็นเห็ดที่พบในภูมิภาคเขตร้อน ชอบขึ้นในบริเวณที่มีซากพืชเน่าเปื่อยผุพัง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเห็ดฟางยังเป้นที่นิยมบริดภคของคนไทย เนื่อจากรสชาติดี แต่ก่อนจะเก้บเห็ดฟางที่ขึ้นเองตามธรรมชาติมาบริดภค เช่น ตามกองฟาง กองปุ๋ยหมัก เป็นต้น แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการเพาะเลี้ยงเห้ดฟางกันอย่างกว้างขวาง เห็ดฟาง หรือเห็ดบัว มีชื่อทางวิทยาศาสาตร์ว่า วอลวาเรียลลา วอลวาเซีย (Volvariella Volvacea) การเจริญเติบโตของเห้ดฟาง มี 2 ลักษณะ คิชือระยะที่เป็นเส้นใยกับระยะที่เป็นดอกเห็ด เส้นใยเห้ดมีสีขาวนวล เจริญเติบโตกินวัสดุเพาะ และเมื่อเส้นใยรวมตัวกันเป็นก้อนจะกลายเป็นตุ่มนูนๆ ค่อยๆเจรฺยเติบโตขึ้น มีลักษณะเป็นรูปไข่ที่มีเยื่อหุ้ม สูงขึ้นจากพื้นประมาณ 4-8 เซนติเมตร มีเส้นผ่านศูนญืกลาง 3 - 4 เซนติเมตร ตรงยอดที่มีสีเข้มกว่า มีสีดำอมน้ำตาล ส่วนที่อยู่ล่างลงไปจะมีสีจางกว่า หลังจากนั้นส่วนยอดของเห็ดรูปไข่จะปริแตกออก ดอกเห็ดมีลักษณะคล้ายกระดิ่ง



บรรณานุกรมหนังสือภาษาไทย
ราชบัณฑิตยสถาน.  เห็ดกินได้และเห็ดมีพิษในกระเทศไทย.  พิมพ์ครั้งที่๑.  กรุงเทพมหานคร :
       อมรินทร์พริ้นตึ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, ๒๕๓๙
สำเภา  ภัทรเกษวิทย์.  เห็ดเมืงหนาว.  พิมพ์ครั้งที่๑.  กรุงเทพมหานคร : ฟันนี่ พับบลิชชิ่ง, ๒๕๔๖
อดุลย์  รัตนมั่นเกษม.  เพาะเห็ดขาย.  พิมพ์ครั้งที่๑๕.  กรุงเทพมหานคร ​: เยลโล่การพิมพ์, ๒๕๔๗

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
เพาะเห็ดฟาง ได้อนุญาตให้ใช้ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-อนุญาตแบบเดียวกัน 4.0 International.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น